ค้นหาหนัง

The Rundown โคตรคน ล่าขุมทรัพย์ป่านรก

The Rundown โคตรคน ล่าขุมทรัพย์ป่านรก
เรื่องย่อ : The Rundown โคตรคน ล่าขุมทรัพย์ป่านรก

ในป่าคอนกรีตของนครลอสแองเจลิส ที่ชีวิตต้องดำเนินไปอย่างยากลำบาก มีคนอย่าง เบ็ค (ดเวย์น จอห์นสัน) ที่จริง ก็ไม่เชิงเหมือนเบ็คไปหมดทุกอย่าง เป็นผู้ชายที่ทำทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อให้ได้ในทุกสิ่งที่มีคนจ้างให้เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นคน เงินค่างวดที่ค้างชำระ หรือแหวนซูเปอร์โบวล์ จากควอเตอร์แบ็คที่ติดหนี้พนัน เบ็คมองไม่เห็นถึงความแตกต่าง เขาอาศัยสติปัญญา ทัศนคติในเชิงที่ว่า มาจัดการให้มันจบ ๆ ไปดีกว่า และความกล้าหาญ อำนาจในการทำลายล้างของเขา เพื่อทำงานให้สำเร็จ สำหรับเบ็ค มันเป็นโลกแสนธรรมดา ที่มีทางเลือกหลายทาง คือหนึ่ง ใช้วิธีของเบ็ค สอง ใช้วิธีของเบ็คผสมกับการใช้กำลัง หรือสาม ไม่ ไม่มีทางเลือกที่สามหรอก

IMDB : tt0327850

คะแนน : 6



ตั้งแต่สมัยที่ The Rock เริ่มเข้าวงการแสดงในเรื่อง The Scorpion King นั้น (The Mummy Returns เป็นแค่บทรับเชิญครับ ต้องเรื่องหลังนี่ถึงจะเต็มตัว ) ก็ผมก็คิดตั้งแต่ตอนนั้นนะ ว่ามีแนวโน้มสูงมากๆ ที่พี่เขาจะโด่งดังเจริญรอยตามพี่บึ้กรุ่นเดอะ อย่าง Arnold Schwarzenegger กับ Sylvester Stallone ขอเพียงเขาเลือกบทที่ถูกทางสักหน่อยเป็นใช้ได้ และสำหรับก้าวต่อมา (ในยุคแรกๆ) ของเขาใน The Rundown เรื่องนี้ก็นับว่าเข้าท่าครับ

The Rock มาเล่นเป็น เบค นักล่ารับจ้างที่รับงานทวงหนี้ไปจนถึงตามคน และงานล่าสุดที่เขาได้รับมาก็คือการตามหาลูกชายตัวแสบของเจ้านายเขานามว่าเทรวิส (Seann William Scott) ไปตามถึงโน่น่ะครับ เอล โดราโด้ ส่วนลึกของป่าอะเมซอนและที่นั่นเขาต้องเผชิญกับเจ้าถิ่นจอมโหดอย่างแฮทเชอร์ (Christopher Walken พี่แกเล่นบทวายร้ายขาโหดอีกแล้วครับท่าน) แล้วยังต้องเจอกับมาเรียน่า (Rosario Dawson) หญิงสาวชาวบ้านผู้มีความลับซ่อนอยู่ แต่เหนืออื่นใดสำหรับการผจญภัยครั้งนี้ก็คือ ภายในเอล โดราโด้นี้มีขุมทรัพย์อันประเมินค่ามิได้ซ่อนอยู่ด้วย

ครับ แล้วพี่พระเอกของเราก็เลยต้องทั้งลุย ทั้งซัด ทั้งเจอพวกกวนบาทาสารพัด จนกว่าจะจบนี่ก็เล่นเอาเหนื่อยไปไม่น้อยเลย

เรื่องนี้นับว่าใช้ได้เลยครับ ถือว่า The Rock เลือกเล่นได้เหมาะ เพราะบทมันเป็นพระเอกแบบไม่ต้องแสดงอารมณ์อะไรมากมาย ตามสูตรพี่อาร์นี่กับพี่สไลเลยล่ะ แค่มาบึ้กๆ พร้อมคำพูดคมๆ ติดปากไว้ แล้วบวกด้วยแอ็กชันมันส์ๆ เท่านี้เป็นใช้ได้

Scott ก็มาดเดิมครับ จอมพล่ามป่าแตก เล่นกี่เรื่องก็แบบนี้ทุกที แต่จะว่าไปน่ะครับ ยังไงๆ บทที่ยอดเยี่ยมของเขามันต้องออกเชิงตลกลามกหน่อยๆ แบบ American Pie ล่ะตรงเผงเลย กับเรื่องนี้พี่แกลามกน้อยไปนิดครับ แต่ก็เอาเถอะ จะไปลามกในเรื่องมันก็ใช่ที่ รสชาติหนังอาจจะแปร่งไปเลยก็ได้ เอาเป็นว่าเขาก็ทำหน้าที่ได้เรื่อยๆ โอเคกับบทน่ะครับ

Walken ก็มามาดชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ชั่วร้ายเต็มสตรีมอยู่แล้ว โหดนิ่มแบบแฝงรอยยิ้มนี่สบายใจได้ครับ ป๋าเขาเล่นได้ดีเสมอ ส่วนนางเอกของเรื่อง Dawson ก็ยังเหมือนเคยๆ ครับ คือยังไม่ถึงกับเด่นสักเท่าไร

Peter Berg ที่ผันตัวจากนักแสดงมากำกับ ซึ่งตอนนี้เขากลายเป็นผู้กำกับที่ฝีมือวางใจได้คนหนึ่งไปแล้วครับ ในขณะที่เรื่องนี้เป็นผลงานหนังโรงชิ้นที่ 2 ของเขา (ต่อจากหนังตลกร้ายสายโหดอย่าง Very Bad Things)  สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นแอ็กชันเอามันส์เต็มตัว ทำได้น่าติดตามในระดับหนึ่ง ฉากในป่าถ่ายออกมาได้สวยดีครับ อีกอย่างรู้สึกว่าแพี่เขาจะชอบช็อตมุมกว้างนะ ประเภทลากกล้องยาวๆ ถ่ายจากมุมสูงๆ อะไรทำนองนั้น ซึ่งก็เหมาะกับหนังทีเดียวครับ เป็นผู้กำกับอีกคนที่ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้ดีคนหนึ่งเลยล่ะ ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องขอชมผู้กำกับภาพ Tobias A. Schliessler ด้วยที่สามารถจับภาพมาได้เหมาะแบบนี้ (และถัดจากเรื่องนี้พวกเขาก็ได้ร่วมงานกันต่อใน Friday Night Lights, Lone Survivor แล้วก็ Patriots Day แม้จะไม่ถึงขั้นคู่บุญ แต่ก็ถือว่าทำงานได้เข้าขากันครับ)

ตอนแรกได้ข่าวว่า Stephen Sommers ผู้กำกับ The Mummy 2 ภาคแรกจะมาทำครับ แต่สดท้ายก็เปลี่ยนใจไปทำ Van Helsing แทน ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าถ้าพี่เขามาทำแล้วหนังจะออกมาเป็นยังไง (เดาว่าน่าจะอลังการกว่าที่เป็นแน่ๆ)

จัดเป็นหนังบู๊เอามันส์ครับ สาระไม่ต้องไปคำนึง ดูให้มันส์ พอให้เลือดสูบฉีดเป็นพอ ฉากตีกันตอนไคลแม็กซ์ที่เล่นเอาเมืองพังไปเป็นแถบๆ นั่นก็เมามันส์กำลังดี ระเบิดกระสุนงี้ปลิวว่อนไปหมด แต่รู้สึกเสียดายนิดหน่อยตรงฉากขุมทรัพย์ที่ดูธรรมดาไปเกินคาดไปนิด

ตอนต้นเรื่องมีอะไรให้เฮหน่อยๆ คือการโผล่มารับเชิญของพี่บึ้กอาร์โนลด์ มาอวยพร The Rock เราประมาณว่า “ขอให้สนุกนะ” ก็เป็นอะไรที่น่ารักดีครับ

ในแง่รายได้นั้นถือว่าทำเงินไม่เข้าเป้าสักเท่าไร หนังทำเงินทั่วโลกไปประมาณ $80 ล้าน แต่ทุนสร้างนั้นปาเข้าไป $85 ล้านครับ ก็เรียกได้ว่าเป็นหนังขาดทุนอีกเรื่องหนึ่ง

สรุปว่าดูเอามันส์ได้ตามสะดวกครับ