IMDB : tt0107617
คะแนน : 10
ถ้าจะพูดถึงวงการของภาพยนต์เวียดนามนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับความสนใจจากนักดูหนังในวงกว้างซักเท่าไหร่ ถึงขั้นเงียบเชียบ แต่จะให้เอ่ยถึงหนังดีๆ ที่อยู่ในสายประกวดของประเทศนี้ เท่าที่ผมรู้จักก็มีอยู่บ้าง อย่างเช่น Owl and the sparrow ในปี 2007 หนัง drama ชีวิตของเด็กสาวกำพร้าที่ออกไปเผชิญชีวิตในโลกกว้าง จวบจนมาถึง หนังเรื่องที่สอง ที่ผมมีโอกาสได้ดูนั่งก็คือ The Scent of green papaya ถ้าจะแปลตรงๆก็คือ กลิ่นของมะละกอสีเขียว
หนังเรื่องนี่ก่อนที่ผมจะได้ดูนั้น ทราบมาว่า ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย จึงไม่มีรอ ไปหามาดูทันที แล้วผลลัพธ์ก็คือ หนังดี ความสวยงามที่อยู่ในความดาษดื่น ที่ผมบอกอย่างนี้ก็คือ หนัง drama ที่บอกเล่าชีวิตของ เด็กสาว เผชิญชีวิต พล๊อตเรืองที่เห็นกันแทบจะทั่วไป นั้นสุดแสนจะเรียบง่าย แต่ความเรียบง่ายที่ผู้กำกับใส่ลงไปนั้นยังปรุงแต่งผสมความสวยงามของงานด้านภาพ และ ตัวละครได้อย่างน่าหลงใหล จึงทำให้หนังเรื่องนี้นั้นโดดเด่นขึ้นมามันที แม้เนื้อเรื่องจะไม่มีอะไรมากนัก และหนังเรื่องนี้นั้นผมทราบต่อมามันคือ งานของผู้กำกับคนเดียวกับ Norwegian wood หนังญี่ปุ่นภาพสวย เรื่องราวหดหู่ ผมจึงไม่แปลกใจอะไรที่งานภาพจะออกมาในลักษณะคล้ายๆกัน
หนังเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ มุย เด็กสาวกำพร้า อายุราว 10 ขวบ ที่ต้องมาเป็นคนรับใช้ตั้งแต่เธอยังเด็ก ที่บ้านหลังหนึ่ง ชีวิตประจำวันของเธอนั้นก็ขลุกอยู่แต่ในครัว คอยทำกับข้าวหุงหาอาหารให้คนในบ้านกิน เธอเป็นเด็กดีขยันตั้งใจทำงาน ทำให้เป็นที่รักของคนที่นี่ เมื่อเธอโตเป้นสาวเธอจึงย้ายบ้าน ไปเป็นคนรับใช้บ้านของผู้ชายที่มีฐานะร่ำรวย และเป็นชายที่เธอแอบรักครั้งเธอยังเด็ก
ผู้กำกับยังใส่ ประเด็นฐานะทางสังคมของหญิงและชาย แทรกเอาไว้อีกด้วย หญิงที่ต้องปรนนิบัติ ฝ่ายชาย ฝ่ายชายมีฐานะทางเพศเหนือกว่า ผู้หญิงต้องทำตัวเป็นแม้บ้านแม้เรือน ทั้งชีวิตของมุยตลอดทั้งเรื่องจะสังเกตุได้ว่าเธอนั้น เป็นฝ่ายรับใช้ ปรนนิบัติตลอดเวลา แม้
สุดท้ายเธอจะได้สามีของนายของตนก็ตาม
The Scent of green papaya จึงเหมาะแก่คนที่ชอบดูหนังชีวิตเด็กสาวใช้ชีวิต เนือยๆ เอื่อยๆ ภาพสวย เพลินๆ ผมว่าดียิ่งนัก แต่ถ้าใครไม่ถูกจริตกับหนังแบบนี้ ผมว่ามีหลับแน่