The Spy Who Dumped Me : 2 สปาย สวมรอยข้ามโลก
แฟนหนุ่มของ ออเดรย์ ผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่ไม่รู้ว่าแฟนเป็นสปายของ CIA อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็ได้รับข้อความจากดรูว์ว่า “เลิกกันเถอะ” เท่านั้นยังไม่พอ จู่ๆ ก็มีบุรุษลึกลับคู่หนึ่งบุกมาหาเธอ แล้วบอกความจริงกับเธอว่า ดรูว์ แฟนหนุ่มของเธอเป็นสายลับ ซึ่งเธอก็เทใจเชื่อไปกว่าครึ่งแล้วเพราะเห็นหลักฐานรูปภาพต่างๆ ไม่นานนัก ดรูว์ก็กลับมาพร้อมศัตรูที่ไล่ล่าเขา เมื่อเขาถูกยิง ดรูว์ก็สั่งเสียให้ออเดรย์ช่วยทำภารกิจต่อ โดยภารกิจนั้นคือการนำไอเท็มสำคัญชิ้นหนึ่งไปให้คนที่ออสเตรีย ไม่อย่างนั้นคนทั้งโลกจะตกอยู่ในอันตราย ออเดรย์และมอร์แกน เพื่อนสาวสุดซี้ของเธอ จึงต้องร่วมกันเดินทางไปยุโรปเพื่อทำภารกิจนี้ซะ
IMDB : tt6663582
คะแนน : 7
การจับคู่ของ Mila Kunis และ Kate McKinnon ในภาพยนตร์แอ็คชั่นเรทอาร์ดูเหมือนจะเป็นการหลบหนีช่วงปลายฤดูร้อนที่สมบูรณ์แบบ นักแสดงหญิงทั้งสองได้พิสูจน์มาหลายปีแล้วว่าพวกเขากำลังแข่งขันกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และสไตล์ที่ตัดกันของพวกเธอยังคงรักษาคำมั่นสัญญาของเคมีที่ติดไฟได้ Kunis เป็นคนเจ้าเล่ห์และกัดคนตาย McKinnon เป็นลมบ้าหมูที่กล้าหาญ
ความขบขันไม่ใช่ปัญหา (ทั้งหมด) ใน "The Spy Who Dumped Me" ซึ่งตามชื่อเรื่องแล้วฉลาดกว่าตัวหนังเอง เป็นความรุนแรงสุดโต่งซึ่งตรงกันข้ามกับการแสดงตลกที่โง่เขลา การสังหารนั้นเหนือชั้นกว่าที่คุณเห็นในภาพยนตร์สายลับตรง ๆ ซึ่งฉันคิดว่าเป็นประเด็น เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มีจุดมุ่งหมายพร้อมกันเพื่อส่งแนวเพลงรวมถึงตัวอย่างที่ตรงไปตรงมาซึ่งเป็นงานที่ทำได้ยากเว้นแต่คุณจะเป็น Edgar Wright ผู้กำกับและผู้เขียนร่วม Susanna Fogel ประสบปัญหาในการปรับสมดุลโทนระหว่างความตลกขบขันและแอ็คชั่น ซึ่งมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาที่ใช้เวลานานของภาพยนตร์เรื่องนี้
The Spy Who Dumped Me เล่นกับประเด็นนิดๆ หน่อยๆ เรื่องการออกไปใช้ชีวิต เนื่องจากก่อนหน้าภารกิจ ออเดรย์และมอร์แกนเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา มีชีวิตน่าเบื่อๆ ทั่วไป แต่พอต้องมาทำภารกิจเสี่ยงตายข้ามทวีปแบบนี้ มันทำให้พวกเธอรู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต รู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้มากกว่าเดิม รู้สึกว่าชีวิตมีมุมตื่นเต้น รู้สึกว่าตัวเองได้มี “ชีวิต” จริงๆ แม้จะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงถึงชีวิตก็ตามเถอะ
ก็อาจจะจริงอย่างที่เค้าว่า บางทีเราอาจจะต้องเผชิญเรื่องราวใหม่ๆ และความเสี่ยงบ้าง เพื่อให้ชีวิตมีสีสันยิ่งขึ้นแหละนะ