ค้นหาหนัง

The Terminal ด้วยรักและมิตรภาพ

The Terminal ด้วยรักและมิตรภาพ
เรื่องย่อ : The Terminal ด้วยรักและมิตรภาพ

วิคเตอร์ นาวอร์สกี้ (Tom Hanks) ชายต่างชาติที่เดินทางมาถึงสนามบินเจเอฟเค ประเทศอเมริกา แต่ประจวบเหมาะครับ นาทีทีเขาก้าวเข้ามายังสหรัฐก็ดันมีสงครามเกิดที่ประเทศของเขาพอดี ทำให้สถานภาพความเป็นพลเมืองของเขาเกิดปัญหาครับ นั่นคือพาสปอร์ตของเขาถูกยกเลิก ทำให้เขาไม่สามารถเดินเข้าไปในอเมริกาได้ และขณะเดียวกันเขาจะนั่งเครื่องกลับประเทศไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้วิคเตอร์จะทำอะไรไปไหนก็ไม่ได้ นอกจากต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่ในสนามบินแล้วนั่นแหละครับ คือเรื่องราวทั้งหมด ชายคนหนึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่ในสนามบิน รวมทั้งพบทั้งมิตรและคนไม่ชอบหน้า

IMDB : tt0362227

คะแนน : 9



หลายคนดูเรื่อง นี้แล้วชอบ หลายคนดูแล้วก็ไม่ สุดแท้แต่ครับ ต่างคนต่างใจ ส่วนผมต้องบอกว่าชอบโคตร เพราะนี่แหละ หนัง Steven Spielberg ขนานแท้ … คุณอาตีตั๋วแห่งนิตยสาร Cinemag เคยบอกไว้ครับ จะกินอาหารให้อร่อยต้องรู้ว่าใครปรุง เช่นเดียวกันครับจะดูหนังให้สนุกก็ต้องรู้ว่าใครกำกับ

อย่างที่บอก ครับว่านี่เป็นงาน Spielberg ฉายาของเฮียแกก็ปีเตอร์แพนแห่ง Hollywood อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่หนังมันไม่ได้หนัก ไม่ได้เครียด เพราะอย่างที่ผมบอกแต่ต้นครับ หนังพี่แกเน้นการมองโลกในแง่ดี เรื่องส่วนมากที่เกิดกับวิคเตอร์ก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่ส่วนมากก็จะไม่ร้ายจนเกินไป ออกจะสบายๆ ด้วยซ้ำไป ดังนั้นใครกะจะได้ดูหนังชีวิตหนักๆ ล่ะก็เตรียมผิดหวังล่วงหน้าได้เลยครับ ไม่ใช่เรื่องนี้หรอก

ดังนั้นถ้าใครชอบโทนหนังแบบสบายๆ ไม่เครียดกับชีวิต เรื่องนี้น่าจะไปนั่งอยู่ในอ้อมอกอ้อมใจไม่ยากครับ

ส่วนที่ต้องชมมากๆ คือการแสดงของ พี่ Tom Hanks ที่ถ้าไม่ใช่พี่ท่าน หนังอาจจะไม่ดีขนาดนี้ ฝีมือการแสดงนี่สุดยอดระดับที่หาคำบรรยายไม่ได้แล้วล่ะครับ เล่นบทไหนได้หมด ซ้ำยังลื่นไหลตลอดอีกด้วย ยิ่งฉากที่วิคเตอร์ต้องมารู้ว่าเกิดสงครามในบ้านเมืองเขา แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลออกมานี่สุดยอดไปเลย ทำได้ไงครับ ทำได้ไงพี่ ขอร้องพี่ช่วยมาสอนดาราบางคนในบ้านเมืองผมทีเถอะคับ

ส่วนดาราคนอื่นก็ไม่มีปัญหาครับ แสดงได้ดีทุกคน โดยเฉพาะพี่ Stanley Tucci ที่มาเล่นเป็นหัวหน้าสนามบิน แม้จะดูร้ายจนออกนอกหน้าไปหน่อย แต่การกระทำของพี่แกก็สะท้อนคนจำพวกชอบอ้างกฎอ้างระเบียบแบบสุดโต่ง ซึ่งจริงๆ แล้วกฎระเบียบคือแนวทางที่ควรปฏิบัติครับ แต่ไม่ใช่ประกาศิตที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เราควรยืดหยุ่นในบางช่วงบางขณะ ขณะเดียวกันบทพี่ก็สะท้อนถึงการเอาตัวรอด ประมาณว่าเอาฉันรอด ฉันไม่เกิดปัญหา แต่คนอื่นจะลำบากมากน้อยแค่ไหนก็เรื่องของเขาอะไรประมาณนี้

นี่แหละ ดูหนังให้สนุกมันต้องรู้ว่าใครทำ อะไรก็ตามในหนังพี่ Spielberg ที่มันดูสุดโต่งพิกลหรือย้ำบ่อยๆ จนผิดสังเกต ก็ขอให้รู้ไว้ครับว่า มีการแฝงอะไรเข้าให้แล้วล่ะนั่น ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องเกี่ยวกับพ่อๆ ลูกๆ เครื่องหมายการค้าของเฮียแกก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม

สรุปว่าหนังดูสบาย ครับ ไม่เครียด ดูแล้วมีความหวังชีวิตขึ้นเยอะ ก็ต้องแล้วแต่ครับว่าชอบไหม ส่วนผมยังไงก็ได้อยู่แล้วล่ะ ขอให้มันออกมาดีและโทนมันไปในทิศทางเดียวกัน กลมกลืนก็จัดว่าเหมาะสมแล้วล่ะครับ กับเรื่องนี้ทั้งโทน การเดินเรื่อง นักแสดง ดนตรี และบทสรุปไปทางเดียวกันตลอด กลมกล่อมไม่ค่อยมีรสแปร่งปร่ามาให้แหม่งลิ้น

ส่วนเรื่องสาระ อันนี้ต้องขอบอกว่ามีอยู่ไม่น้อยนะครับ เรื่องการใช้ชีวิต การรู้จักให้ความหวังตัวเองบ้าง การยอมถอยในบางครั้งและการไม่ถอยในบางโอกาส อย่างที่บอกน่ะแหละ หนังพี่ Spielberg นั้นไม่เคยมีความว่าโล่งโถง ต่างก็แค่มีมากหรือมีน้อยเท่านั้นเอง

ดูๆ แล้วผมออกจะเจ้าข้างหนังเรื่องนี้ออกนอกหน้านะคับ ก็ทำไงได้ล่ะ มันชอบนี่ครับผมก็ไม่ทราบจะปิดบังไปทำไม นี่เว็บผมด้วย ผมจะมานั่งโกหกตัวเองก็ใช่ที่ เอาเป็นว่าไม่ต้องเชื่อผมมากก็แล้วกันครับ คนเรานานาจิตตังอยู่แล้วนี่หน่า

เอาเป็นว่าถ้าชอบหนังดราม่ามีความหวัง ก็ดูเรื่องนี้ได้เลยครับ