ค้นหาหนัง

The Water Man เดอะ วอเตอร์ แมน

The Water Man เดอะ วอเตอร์ แมน
เรื่องย่อ : The Water Man เดอะ วอเตอร์ แมน

เด็กน้อย กันเนอร์ บูน ที่กำลังพบความเจ็บปวดในชีวิตเมื่อแม่ของเขาป่วยเป็นโรคลูคิเมีย และอาการแย่ลงทุกวัน อาจจะตายได้ทุกเมื่อ ในขณะที่พ่อของเขาก็พยายามอย่างยิ่งที่จะดูแลครอบครัว แต่ก็ไม่สามารถสื่อสารให้ลูกชายเข้าใจถึงความสูญเสียที่พวกเขากำลังจะเจอได้ ด้านกันเนอร์ก็เป็นเด็กชายที่มีจินตนาการสูง เขามีความสามารถในการวาดรูป และเนื่องจากเขาเคยได้ฟังเรื่องราวของ วอเตอร์แมน ที่กล่าวกันว่าฟื้นคืนชีวิตจากความตายได้ และมีพลังช่วยให้สิ่งต่างๆคืนชีพ อาศัยอยู่ในป่าบนเขาของเมืองนี้ โดยเรื่องราวของวอเตอร์เมนเป็นเสมือนเรื่องราวในนิทานที่มีไว้เพื่อไม่ให้เด็กๆเข้าไปในป่าที่อันตราย แต่กันเนอร์กลับมีความหวังว่า วอเตอร์แมนจะมีอยู่จริง เขาจึงร่วมมือกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาในละแวกนี้คือ โจ ริลลี่ ซึ่งอ้างว่าเธอรู้เรื่องราวของวอเตอร์แมน พากันเข้าป่าไปออกตามหาวอเตอร์แมน เพื่อจะช่วยแม่ของให้เขารอดชีวิต

IMDB : tt4779326

คะแนน : 7



หนังดราม่าเด็กแนว Coming of Age กับความสูญเสียและเจ็บปวดที่เด็กต้องเผชิญหน้า เป็นหนังกึ่งแฟนตาซีดูได้เรื่อยๆ

The Water Man Netflix รีวิว เดอะ วอเตอร์แมน หนังกึ่งแฟนตาซีที่บอกเล่าความเจ็บปวดที่เด็กทุกคนต้องเผชิญหน้าก่อนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วยังมีประเด็นความรุนแรงในครอบครัวด้วย เป็นหนังแนว Coming of Age ที่เด็กดูได้และควรดู แต่การเล่าเรื่องไม่ค่อยสนุกและยังเทียบกับหนังแนวเดียวกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เรื่องนี้เป็นหนังเด็ก ประเภท Coming of Age สอนให้เด็กเรียนรู้ความเจ็บปวดในชีวิตเพื่อก้าวข้ามไปสู่การเป็นวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่

ก่อนอื่นต้องรีวิวว่า แม้ว่าฉากหน้าของเรื่องนี้จะทำเหมือนเป็นหนังเด็กแนวแฟนตาซีเหนือจริง แต่ที่จริงแล้วมันสร้างออกมาโดยต้องการยั่วล่อและเล่นกับจินตนาการของเด็กๆ ที่คาดหวังว่าจะมีสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติซุกซ่อนอยู่ในสถานที่ลี้ลับเช่นในป่าเขา ซึ่งเชื่อว่าแทบทุกคนเคยผ่านกันมาเกือบหมดแล้ว แล้วก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไรที่เด็กๆ จะเชื่อเรื่องราว ตำนาน เรื่องเก่าแก่ ที่ผสมผสานระหว่างความจริงและเหนือจริงทำนองนี้ เพราะผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยก็แอบมีความเชื่อเรื่องพวกนี้เช่นกัน ซึ่งหนังที่สร้างออกมาแนวนี้จะพบบ่อยมากในโลกตะวันตก ส่วนมากมีต้นฉบับมาจากวรรณกรรมเยาวชน หรือนิยายภาพ ตัวหนัง เดอะวอเตอร์แมนเองก็มีความจงใจนำเสนอแบบนั้น จึงมีการใช้เทคนิคแบบอนิเมชั่นเข้ามาผสมผสานในระหว่างการเล่าเรื่องราวที่เหนือจริงด้วย เสมือนต้องการบอกคนดูว่า ถ้ามีฉากแนวอนิเมชั่นเข้ามาเมื่อไหร่ แสดงว่านั่นคือเรื่องเล่าแนวแฟนตาซี ไม่ใช่ของจริง แต่ก็ถือว่าใช้กราฟฟิก CG เข้ามาช่วยในส่วนนี้ได้ค่อนข้างดีกว่าหนังเด็กทุนต่ำทั่วไป

ภาพรวมการเล่าเรื่องและนำเสนอของเรื่องนี้ ถ้าเทียบกับหนังเด็กในแนวคล้ายกันอย่างเช่น Hugo, Bride of Terabithia โดยเฉพาะเรื่องหลังที่เล่นประเด็นความสูญเสียเหมือนกัน ถือว่าเรื่องนี้ยังเทียบไม่ได้เลย แต่ก็ถือว่าเป็นหนังเด็กที่มีสาระที่ดี เด็กๆที่อยู่ในสถานการณ์คล้ายกับสองตัวเอกในเรื่องนี้ ทั้งการเผชิญหน้าความสูญเสียที่กำลังจะเกิด หรือประเด็นความรุนแรงในครอบครัว พวกเขาก็อาจจะอินและเชื่อมโยงกับหนังไปเลยก็ได้

สรุปแล้ว นี่เป็นหนังเด็กแนว Coming of Age ที่บอกเล่าจินตนาการเหนือจริง กับนำเสนอเรื่องความสูญเสียและความเจ็บปวดที่เด็กๆต้องเผชิญหน้าเพื่อจะเป็นผู้ใหญ่ ที่หากไม่คิดอะไรมากก็ดูได้เพลินๆ