ค้นหาหนัง

Tune in for Love คลื่นรักสื่อใจ

Tune in for Love คลื่นรักสื่อใจ
เรื่องย่อ : Tune in for Love คลื่นรักสื่อใจ

มีซู สาวลูกเจ้าของร้านเบเกอรี่ เธอรู้สึกหวาดระแวง ฮยอนอูเด็กหนุ่มมัธยมปลายต้องการมาสมัครเป็นพนักงานชั่วคราวที่ร้านเบเกอรี่ของเธอ เป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อ เธอจึงใช้หน้าตาของเขาให้เป็นประโยชน์ในการเรียกลูกค้า ทว่าก็เป็นตัวเธอเองที่ดันรู้สึกไม่พอใจเมื่อมีสาว ๆ มาเข้าใกล้เขา แล้วช่วงเวลาของความสุขมันก็อยู่กับพวกเขาได้ไม่นาน เมื่ออดีตของ ฮยอนอู ไม่ยอมปล่อยให้เขาไปมีชีวิตที่ดี ทั้งสองคนจึงต้องแยกจากกันอย่างที่ไม่ได้เอ่ยคำลา ฮยอนอูและมีซู จึงหวังได้เพียงแต่ว่า โลกใบนี้จะเหวี่ยงให้เขาและเธอกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง

IMDB : tt10763618

คะแนน : 8



Tune in for Love เป็นหนังรักอีกเรื่องที่ได้รับความสนใจในปี 2019 ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์และกลิ่นอายละมุน จากผลงานเขียนของ อีซุกยอน (April Snow และ One Fine Spring Day) ร่วมกับ ผู้กำกับจองจีอู (Heart Blackened, Eungyo และ Happy End) และยังได้สองนักแสดงนำที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้ชมทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ ทั้งเสน่ห์รูปลักษณ์และฝีไม้ลายมือ อย่าง คิมโกอึน และ จองแฮอิน เป็นคู่ที่เหมาะสมลงตัว ดูมีเคมีเข้ากันดี ร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย น่ารัก โรแมนซ์หวานซึ้งได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งอารมณ์ ซึ้ง เศร้าปวดใจ

หนังรัก ก็เป็นอีกหนึ่ง genre ที่หาพล็อตและบทฉีกให้สดใหม่ได้ยาก ไม่แพ้หนังรอมคอม (romantic comedy) แต่เรื่องนี้ก็ยังสามารถเล่าเรื่องความรักได้น่าสนใจ โดยเลือกหยิบแง่ของความรักที่ต้องใช้เวลาบ่มเพาะ ยิ่งถ้ามีจุดเริ่มต้นจากสภาพที่เป็นศูนย์หรือติดลบ และเมื่อการบ่มเพาะยังไม่เข้าที่ ก็เกิดอุปสรรคให้ชะงักงัน พรากจากโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อได้โอกาสกลับมาเจอกันใหม่ ก็มีเหตุให้ต้องคลาดกันอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ติดๆดับๆที่ชวนเอาใจช่วยลุ้น ชวนติดตาม กว่าเขาและเธอจะสามารถประคองมันผ่านไปได้ครบสเต็ป ถึงเวลาที่ใช่ที่ลงตัว สมดังวลีชูกำลังใจ Third Time is a Charm (ความสำเร็จที่จะมาจากความพยายามหลายๆครั้ง) ก็เล่นเอาเหนื่อยแทนเลยล่ะ

องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยส่งความละมุนให้หนังได้อย่างดีเยี่ยม คือการผูกเล่าเรื่องราวของเขาและเธอ คลอไปกับรายการเพลงวิทยุที่ชื่อว่า Music Album ซึ่งถือกำเนิดพร้อมกับชะตาการพบกันครั้งแรกของพวกเขา ในปี 1994 และดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปี 2005 มันคืออารมณ์แบบซีรีส์ตระกูล Reply เลย ความย้อนยุคที่ทำให้ผู้ชมอินตามไปกับตัวละครและบรรยากาศ ท่วงทำนองและเนื้อหาของเพลง รวมไปถึงการพูดคุยของดีเจ ที่ส่งผ่านกำลังใจ สื่อวิถีความคิด สะท้อนวัฒนธรรมการใช้ชีวิตในสังคมคนหนุ่มสาวของแต่ละยุคสมัย  สอดแทรกไปกับเนื้อหนังได้อย่างลงตัว เหมือนร่วมทำหน้าที่เป็นสื่อรักกลายๆ และปลายทางของเรื่อง ในปี 2005 เริ่มมีการออกอากาศรายการวิทยุแบบใช้สตูดิโอเปิดเป็นครั้งแรก เปิดอรุณสวัสดิ์ฟ้าใหม่ จึงเหมือนเป็นสัญลักษณ์การเปิดหัวใจของกันและกัน สู่โลกความรักที่สดใสของเขาและเธอ