U-571 | ดิ่งเด็ดขั้วมหาอำนาจ
หนังเล่าถึงเรือ U-571 ของฝ่ายเยอรมันเกิดจอดเสียรอการช่วยเหลืออยู่ ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงเห็นช่องทางในการยึดเครื่องอินิกม่าจากเรือดำน้ำเยอรมันด้วยการให้เรือดำน้ำ S-33 ของอเมริกันดัดแปลงให้คล้ายเรือนาซีแล้วส่งทหารอเมริกันปลอมตัวไปยึดเรือ แต่เกิดความผิดพลาดขึ้นจนทำให้ 'กัปตันเทย์เลอร์' (Matthew McConaughey) ต้องกลายเป็นผู้ควบคุมเรือดำน้ำของเยอรมันต่อสู้กับเรือพิฆาตของนาซี
IMDB : tt0141926
คะแนน : 7
หนังแอคชั่นเรือดำน้ำ ที่ดูสนุกจนลืมหายใจ ภายใต้บรรยากาศในพื้นที่ปิดที่แสนกดดัน กับสภาพมวยรองบ่อนกับการเผชิญหน้าของเรือใกล้พังกับเรือพิฆาตสุดระทึก
สำหรับ U-571 นั้น เป็นหนังที่เหมาะกับคอหนังแอคชั่นเอาชีวิตรอดมากๆ แม้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องและโยงกับสงครามอยู่ แต่ด้วยการที่สภาพแวดล้อมของการรบมันเปลี่ยน จากบนบกที่เห็นกันบ่อยมาเป็นใต้น้ำ ก็ทำให้ได้มุมใหม่ๆ ของหนังสงครามที่สนุกชวนลุ้นไม่แพ้กัน (หรือมากกว่าซะด้วยซ้ำ) อีกทั้งด้วยความที่เป็นการรบในเรือ เลยอาจไม่มีฉากโหดร้าย เลือดสาดตามฉบับหนังสงครามทั่วๆ ไป ทำให้คอหนังประวัติศาสตร์ ที่ไม่ชอบฉากสงครามอันโหดร้ายก็สามารถรับชมได้ด้วย นับเป็นหนังเรือดำน้ำอีกเรื่องที่สนุกไม่แพ้ The Hunt for Red October, Crimson Tide หรือที่ใกล้เคียงกันจริงๆ อย่าง Hunter Killer ได้เลย
สายหนังแอคชั่นสงคราม, สายหนังสงครามใต้น้ำ, สายหนังสงครามอิงประวัติศาสตร์
U-571 นับเป็นหนังสไตล์เรือดำน้ำไม่กี่เรื่องในยุคนั้น ที่ทำออกมาเป็นสายแอคชั่นเต็มพิกัด ได้มันส์และชวนลุ้นถึงใจมากๆ แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีหนังอย่าง The Hunt for Red October หรือ Crimson Tide มาก่อน แต่ 2 เรื่องก่อนหน้าก็เน้นที่บท ตัวละคร และประเด็นการเมืองมากกว่า U-571 ที่พาดูไปร่วมลุ้นกับสถานการณ์อย่างแท้จริง และทำฉากแอคชั่นออกมาได้สนุกมากๆ แบบไม่มีพักกันเลย แม้ว่าในช่วงแรกหนังอาจจะเป็นเชิงแนะนำตัวละครกับภารกิจอยู่สักหน่อย แต่พอเข้าสู่เรื่องปุ้บเครื่องก็ติดปั้บ ที่เหลือก็เลยเป็นความสนุกแบบหยุดไม่อยู่กันเลย
ด้วยพาหนะที่เป็นตัวเอกของเรื่องคือเรือดำน้ำ ที่มีสภาพแวดล้อมรอบข้างอยู่ใต้ทะเล เลยทำให้บรรยากาศภายในเรือดำน้ำ จึงเต็มไปด้วยความกดดัน ตึงเครียดในสถานที่ปิด ที่ทุกคนพร้อมตายกันได้เสมอหากเกิดอะไรที่ผิดพลาด อีกทั้งด้วยความเป็นมวยรองบ่อนของมัน อย่างการใช้เรือดำน้ำที่จะพังแหล่มิพังแหล่ ไปเผชิญหน้ากับเรือรบทำลายล้างสูง ก็ทำให้เอาคนดูร่วมลุ้นไปกับหนังได้ทุกวินาทีที่มีระเบิด หรือกระสุนเฉียดผ่าน อีกทั้งยังได้เห็นมุมมองไหวพริบการเอาตัวรอดผ่านฉากต่างๆ ที่ทำออกมาได้สนุกจนลืมหายใจ
นอกจากฉากแอคชั่นที่ว่ามา ตัวหนังก็ไม่ได้กลวงจากการเน้นแต่ฉากตื่นเต้นเท่านั้น เพราะตัวเอกอย่างแอนดรูว์ ที่เป็นกัปตันเรือดำน้ำจำเป็น ก็มีการพัฒนาการตัวละครมาโดยตลอด จากการที่ไม่รับการยอมรับในตอนแรกจากหัวหน้าของเขา มาสู่ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงที่มีชีวิตตัวเขาเองและลูกเรือเป็นเดิมพันก็ทำให้หนังดูมีน้ำหนักขึ้นมากๆ และพอนำไปประกบกับงานภาพใต้น้ำชวนลุ้น พร้อมทั้งระบบเสียงดีๆ แล้ว ก็จะยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศการเอาตัวรอดใต้น้ำของหนังออกมาได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียวแหละ แม้ว่าจะมีข้อครหามากมายเกี่ยวกับความไม่สมจริงของมัน เลยทำให้มันอาจกลายเป็นหนังแอคชั่นสงครามแบบดูเอามันส์ โดยที่ไม่ควรจำรายละเอียดของมันมาก