Where the Wild Things Are
เรื่องย่อ : Where the Wild Things Are
เด็กหนุ่มชื่อแม็กซ์มีจินตนาการที่กระตือรือร้น และเขาจะฟิตได้ถ้าคนอื่นไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เขาต้องการ แม็กซ์ - หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแคลร์ (น้องสาวของเขา) และเพื่อนๆ ของเธอ และตามอารมณ์ฉุนเฉียวที่เขาพ่นออกมาอันเป็นผลมาจากการที่แม่ของเขาให้ความสำคัญกับแฟนของเธอมากกว่าเขา - หนีออกจากบ้าน ขณะสวมชุดหมาป่า แม็กซ์ไม่เพียงวิ่งหนีทางร่างกาย แต่ยังวิ่งไปยังโลกในจินตนาการของเขาด้วย โลกนี้ที่อยู่ไกลออกไปในมหาสมุทร มีสัตว์ป่าขนาดใหญ่อาศัยอยู่ รวมทั้งสัตว์ที่ชื่อแครอลซึ่งมีนิสัยคล้ายแม็กซ์มาก แทนที่จะกินแม็กซ์เหมือนปกติกับสัตว์ประเภทเดียวกัน ของป่ามาผูกมิตรกับแม็กซ์หลังจากที่เขาประกาศตัวเองเป็นกษัตริย์ที่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้อย่างอัศจรรย์
เด็กหนุ่มชื่อแม็กซ์มีจินตนาการที่กระตือรือร้น และเขาจะฟิตได้ถ้าคนอื่นไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เขาต้องการ แม็กซ์ - หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแคลร์ (น้องสาวของเขา) และเพื่อนๆ ของเธอ และตามอารมณ์ฉุนเฉียวที่เขาพ่นออกมาอันเป็นผลมาจากการที่แม่ของเขาให้ความสำคัญกับแฟนของเธอมากกว่าเขา - หนีออกจากบ้าน ขณะสวมชุดหมาป่า แม็กซ์ไม่เพียงวิ่งหนีทางร่างกาย แต่ยังวิ่งไปยังโลกในจินตนาการของเขาด้วย โลกนี้ที่อยู่ไกลออกไปในมหาสมุทร มีสัตว์ป่าขนาดใหญ่อาศัยอยู่ รวมทั้งสัตว์ที่ชื่อแครอลซึ่งมีนิสัยคล้ายแม็กซ์มาก แทนที่จะกินแม็กซ์เหมือนปกติกับสัตว์ประเภทเดียวกัน ของป่ามาผูกมิตรกับแม็กซ์หลังจากที่เขาประกาศตัวเองเป็นกษัตริย์ที่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้อย่างอัศจรรย์
IMDB : tt0386117
คะแนน : 9
เวลาทำงาน: หนึ่งชั่วโมงครึ่ง คะแนน MPAA: PG Max โกรธ เขาเป็นคนมีจินตนาการและชอบโวยวาย แต่เขาควบคุมไม่ได้ เขารู้ว่าเหมือนดวงอาทิตย์ วันหนึ่งพลังงานของเขาจะหมดและเขาก็จางหายไป นี่เป็นความคิดที่ยากลำบากสำหรับเด็กหนุ่มที่มีปัญหาเรื่องอายุที่ต้องรับมืออยู่แล้ว หลายคนเรียนรู้วิธีรับมือกับปัญหาชีวิตในแบบของตนเอง และแม็กซ์ก็ทำเช่นนั้นโดยกลายเป็นคนบ้า
ภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างให้กับหนังสือนิทาน Maurice Sendak ดั้งเดิม พฤติกรรมของแม็กซ์มีสาเหตุและการเดินทางของเขาไปยังดินแดนแห่งสัตว์ป่านั้นมีจุดประสงค์ สิ่งมีชีวิตแต่ละตัวมีบุคลิกเฉพาะตัวซึ่งมาจากประสบการณ์ของแม็กซ์กับผู้คนในบ้านเกิดของเขา แครอล (แสดงโดยเจมส์ แกนดอลฟินี) ซึ่งแม็กซ์เข้าใจธรรมชาติแบบอนาธิปไตยและเข้าใจผิดในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าจะช่วยให้เด็กชายมีหนทางในการตกลงกับพ่อที่ตอนนี้หายไปจากชีวิตของเขา
สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชีวิตคือดนตรี บทประพันธ์โดยคาเรน โอ (จากวง Yeah Yeah Yeahs) มอบพลังความอ่อนเยาว์ที่เติมเต็มการกระทำบนหน้าจอ มันถูกสร้างขึ้นจากศูนย์สำหรับภาพยนตร์และใช้งานได้ดีในแต่ละบริบทที่แสดง แทร็กที่มีพลังเต็มไปด้วยเครื่องดนตรีและเสียงโห่ร้องในสนามเด็กเล่นให้ความเชื่อถือกับฉากขี้เล่นในภาพยนตร์ และเสียงร้องที่นุ่มนวลของ Karen O ก็เข้ากันได้ดีกับประเด็นทางอารมณ์
นักอ่านหนังสือจะไม่พอใจที่จะเรียนรู้ขอบเขตของเนื้อหาเพิ่มเติม แต่อาจพบความสบายใจในการมีส่วนร่วมอย่างหนักของผู้เขียนต้นฉบับในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ Spike Jonze ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากผู้เขียนซึ่งเคยดูและยกย่องงานของเขามาก่อน แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ความลึกลับและจินตนาการไปมากจากมือของผู้ชม แต่ Sendak ได้ให้ความเห็นชอบในการตีความเป็นการส่วนตัวหลังจากดูผลงานในขั้นสุดท้าย
ในท้ายที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ควรจะเป็น มันสูญเสียไอน้ำไปตรงกลางเมื่อฉากบางฉากรู้สึกเหมือนถูกดึงออกมาให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ภาพยนตร์ชนกันเกินชั่วโมงที่ยอมรับได้และเครื่องหมายครึ่ง มีฉากวิ่งของกล้องสั่นคลอนในภาพยนตร์มากกว่าตอนของ "24" ซึ่งอาจกลายเป็นเรื่องซ้ำซ้อนและทนไม่ได้หากไม่ใช่สำหรับซาวด์แทร็กที่แสดงออกและทำให้เป็นทาส โชคดีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำงานได้ตามที่นำเสนอ และผู้ชมอาจได้รับแรงบันดาลใจให้ค้นหาสิ่งที่ผิดปกติในตัวเองอีกครั้ง
ควรเตือนผู้ที่ไม่สบายใจง่าย ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่วนใหญ่ถ่ายด้วยกล้องมือถือ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าเอฟเฟกต์ "กล้องสั่น" นี้สามารถทำงานออกมาจากความโปรดปรานของผู้ดูบางส่วน แต่ไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับสมาชิกผู้ชมส่วนใหญ่
ภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างให้กับหนังสือนิทาน Maurice Sendak ดั้งเดิม พฤติกรรมของแม็กซ์มีสาเหตุและการเดินทางของเขาไปยังดินแดนแห่งสัตว์ป่านั้นมีจุดประสงค์ สิ่งมีชีวิตแต่ละตัวมีบุคลิกเฉพาะตัวซึ่งมาจากประสบการณ์ของแม็กซ์กับผู้คนในบ้านเกิดของเขา แครอล (แสดงโดยเจมส์ แกนดอลฟินี) ซึ่งแม็กซ์เข้าใจธรรมชาติแบบอนาธิปไตยและเข้าใจผิดในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าจะช่วยให้เด็กชายมีหนทางในการตกลงกับพ่อที่ตอนนี้หายไปจากชีวิตของเขา
สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชีวิตคือดนตรี บทประพันธ์โดยคาเรน โอ (จากวง Yeah Yeah Yeahs) มอบพลังความอ่อนเยาว์ที่เติมเต็มการกระทำบนหน้าจอ มันถูกสร้างขึ้นจากศูนย์สำหรับภาพยนตร์และใช้งานได้ดีในแต่ละบริบทที่แสดง แทร็กที่มีพลังเต็มไปด้วยเครื่องดนตรีและเสียงโห่ร้องในสนามเด็กเล่นให้ความเชื่อถือกับฉากขี้เล่นในภาพยนตร์ และเสียงร้องที่นุ่มนวลของ Karen O ก็เข้ากันได้ดีกับประเด็นทางอารมณ์
นักอ่านหนังสือจะไม่พอใจที่จะเรียนรู้ขอบเขตของเนื้อหาเพิ่มเติม แต่อาจพบความสบายใจในการมีส่วนร่วมอย่างหนักของผู้เขียนต้นฉบับในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ Spike Jonze ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากผู้เขียนซึ่งเคยดูและยกย่องงานของเขามาก่อน แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ความลึกลับและจินตนาการไปมากจากมือของผู้ชม แต่ Sendak ได้ให้ความเห็นชอบในการตีความเป็นการส่วนตัวหลังจากดูผลงานในขั้นสุดท้าย
ในท้ายที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ควรจะเป็น มันสูญเสียไอน้ำไปตรงกลางเมื่อฉากบางฉากรู้สึกเหมือนถูกดึงออกมาให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ภาพยนตร์ชนกันเกินชั่วโมงที่ยอมรับได้และเครื่องหมายครึ่ง มีฉากวิ่งของกล้องสั่นคลอนในภาพยนตร์มากกว่าตอนของ "24" ซึ่งอาจกลายเป็นเรื่องซ้ำซ้อนและทนไม่ได้หากไม่ใช่สำหรับซาวด์แทร็กที่แสดงออกและทำให้เป็นทาส โชคดีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำงานได้ตามที่นำเสนอ และผู้ชมอาจได้รับแรงบันดาลใจให้ค้นหาสิ่งที่ผิดปกติในตัวเองอีกครั้ง
ควรเตือนผู้ที่ไม่สบายใจง่าย ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่วนใหญ่ถ่ายด้วยกล้องมือถือ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าเอฟเฟกต์ "กล้องสั่น" นี้สามารถทำงานออกมาจากความโปรดปรานของผู้ดูบางส่วน แต่ไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับสมาชิกผู้ชมส่วนใหญ่