ค้นหาหนัง

แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน School Town King

แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน School Town King
เรื่องย่อ : แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน School Town King

ภาพยนตร์สารคดีที่จะพาทุกคนไปเข้าใจโลกของ บุ๊ค และ นนท์ เด็กสลัมคลองเตยที่ที่ตั้งกลุ่มแรปเปอร์เด็กจากสลัมคลองเตยในนาม School Town King เมื่อความยากจนเป็นแรงผลักดัน พวกเขาจึงฝันจะเลี้ยงดูครอบครัวจากการเป็นแรปเปอร์อาชีพ แต่ในความเป็นจริง เขาต้องฝ่าฟันในสมรภูมิที่โหดขิงของระบบการศึกษาไทย คำดูถูกจากเพื่อนและพ่อแม่ บวกแรงกดทับจากสังคม ภารกิจพิสูจน์ฝันนี้สำหรับคุณอาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับพวกเขาทั้งสอง หากจะเฟี้ยวได้ มันต้องจ่ายด้วยการเดิมพันกับชีวิต

IMDB : tt13705830

คะแนน : 8



หนังสารคดีไม่ว่าจะบอกเล่าด้วยสไตล์ใดก็ตาม อย่างไรก็ยังเป็นเรื่องความน่าทึ่งของหัวเรื่องที่นำเสนออยู่วันยังค่ำ ซึ่งหัวเรื่องที่ว่าก็อาจหมายถึงตัวบุคคลเจ้าของประเด็น เช่นว่า บุ๊ค เป็นเด็กเรียนดีและอาจกล่าวได้ว่าคือประเภทประธานนักเรียนในอุดมคติของระบบการศึกษาไทยเลยก็ว่าได้ในช่วง ม.ต้น หากแต่เพียงข้ามก้าวปีสู่ ม. ปลาย การได้พบกับความฝันอย่างแรป ก็แปรเปลี่ยนเขาไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งความขบถที่มากขึ้น หรือแม้แต่ความมั่นใจที่ประกาศว่าตนเองจะไปอเมริกาเพื่อเป็นแรปเปอร์อันดับ 1 ให้จงได้ด้วยสายตาที่ไม่มีทีท่าของการหลอกเล่นแต่อย่างใด หรืออย่าง นนท์ ก็เป็นประเภทของเด็กหลืบที่กลืนหายไปในหลังห้อง ไม่มีใครสนใจจะจดจำ เป็นพวกที่น่าจะโดนรังแกได้ง่าย แต่เพราะแรปนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็น บางคน ขึ้นมา และกล้าที่จะฝันเอาดี ไปไกลได้กว่าเด็กในคลองเตยที่เป็นภาพจำของสังคมว่าไม่โตไปค้ายา ทำผิดกฎหมาย ก็คงอยู่หรือตายในคุกเท่านั้น

ซึ่งแม้จะมีคาแรกเตอร์ตัวนำเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมเรื่องราวความดังข้ามคืนแบบหนังชวนฝันสูตรสำเร็จ แต่ผู้สร้างหนังก็ไม่ได้ฉาบฉวยเอาสะดวกเท่านี้ และก็ไม่เพียงแค่จะเป็นเรื่องราวการเดินทางอันยาวไกลของฮีโรตกยาก ที่ต้องพบอุปสรรคนานาจนกว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะหากเป็นเพียงเช่นนั้นก็คงเป็นเพียงอีกหนึ่งเรื่องเล่าฮีโรที่เห็นดาษดื่นเท่านั้น

แต่หนังกลับมีเรื่องเล่าที่ต่างจากสูตรสำเร็จไปแบบที่เราก็ไม่คาดคิด ซึ่งหากจะ สปอยล์ บ้างพอยั่วน้ำลายก็คงเป็นการปะทะความคิดที่ไม่มีใครผิดหรือถูกของสองสหายรักต่างวัยที่เราเดินร่วมทางกลับเขามาตลอด จนรู้สึกใจหายอยู่หลายครั้งกับทุกความเปลี่ยนแปลงในชีวิตพวกเขา

และมันยังเชื้อเชิญอย่างจงใจให้เราตั้งคำถามกับบริบทรอบตัวของน้องทั้งสองคน ตั้งแต่จุดเล็ก ๆ อย่างครอบครัว ใหญ่ขึ้นเป็นชุมชน ความเหลื่อมล้ำของชนชั้น แนวคิดของระบบการศึกษา ยาวไปถึงนโยบายของรัฐ และทัศนคติของผู้นำประเทศที่มีต่อเด็กได้ถึงขนาดนั้นเลย และคงต้องยอมรับโดยดุษฎีว่าฉากโมโนล็อกของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา คือช่วงเวลาที่หนังอัดเอาจุก ทั้งยังเปล่งประกายมากที่สุดฉากหนึ่งทีเดียว

ซึ่งชะตากรรมของทั้ง 2 สหายในท้ายสุดของหนังที่ไม่ได้เกินคาดคิดสำหรับผู้ชมที่ตระหนักความจริงของโลกใบนี้ จะว่าไปหากอยู่ในหนังบันเทิงก็คงหนักต่อความรู้สึกเราเพียงหมัดแย็บสองสามที แต่เมื่อมันเป็นบันทึกจากเรื่องจริงแล้ว ก็ได้เปลี่ยนน้ำหนักกลายมาเป็นหมัดฮุกหรือเคาต์เทอร์แอตแทกค์ใส่หน้าผู้ชมได้อย่างจังอยู่ไม่น้อย